ตลาดคอนโดฯยังคงคึกคักติดกระแสเหมือนเช่นเคย ด้วยเหตุผลที่ว่าคอนโดฯนั้นมีสิ่งอำนวยความสะดวกล้อมรอบมากมาย ทั้งรถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ซึ่งล้วนจำเป็นต่อการใช้ชีวิตทั้งนั้น และที่สำคัญคอนโดฯยังมีหลากหลายทำเล หลายราคา ไม่ว่าจะเป็นคอนโดย่านใจกลางเมืองอย่างคอนโดย่านพระรามเก้า คอนโดใกล้รถไฟฟ้าศรีนครินทร์ เป็นต้น ทำให้มนุษย์เงินเดือนหลายคนมีกำลังทรัพย์ที่สามารถซื้อได้ แต่จะซื้อคอนโดฯทั้งทีก็ใช้เงินไม่น้อย เราจึงมีวิธีเลือกซื้อคอนโดมาฝากทุกคนกัน
1. สำรวจเงินในกระเป๋า กำลังทรัพย์เป็นสิ่งสำคัญที่เราควรเช็คอันดับแรกว่ามีพอจ่ายหรือเปล่า เพื่อที่จะได้รู้ว่าในการจ่ายผ่อนชำระค่างวดแต่ละเดือนเรามีกำลังเพียงพอหรือไม่ โดยที่เงินเดือนต้องมากกว่าประมาณ 3 เท่าของอัตรการผ่อน
2. วางแผนเรื่องเงินให้พร้อม ผู้ซื้อต้องวางแผนทางการเงินให้พร้อม เพราะอย่าลืมว่าในแต่ละเดือนเรามีค่าใช้จ่ายอย่างอื่นอีกมากมาย ดังนั้น เราควรเตรียมเงินก้อนไว้สำหรับผ่อนดาวน์ก่อน และเมื่อถึงเวลาโอนก็ควรเตรียมค่าใช้จ่ายให้พร้อม โดยจะเป็นเงินประมาณ 10% ของราคาคอนโดฯ
3. อย่าใจง่ายเลือกคอนโดฯเพราะโปรโมชั่น อย่าตัดสินใจซื้อคอนโดฯเพียงเพราะเห็นโปรโมชั่นล่อใจจากที่ต่างๆ โดยที่ยังไม่ได้ไปเห็นทำเลจริงเลย เพราะบางทีการโฆษณากับความเป็นจริงอาจไม่เหมือนกันก็ได้
4. ทำเลที่ใช่ (ต้องใช่จริงๆ) ต้องเป็นทำเลที่เราอยู่แล้วสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้นจริงๆ ไม่ว่าจะใกล้ที่ทำงาน ใกล้รถไฟฟ้า หรือใกล้ห้างสรรพสินค้า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนว่าเป็นเช่นไร ต้องการอาศัยอยู่ในทำเลแบบไหน
5. เลือกตำแหน่งห้องให้ดี เป็นสิ่งที่มือใหม่หัดซื้อคอนโดฯมักต้องเสี่ยงเลือกเป็นอย่างมาก การเลือกห้องไม่ใช่จะมองแค่ว่าอยากเห็นวิวสวยๆ ก็เลือกริมสระว่ายน้ำ อยากเดินใกล้ก็เลือกใกล้ลิฟต์ โดยที่เราต้องคิดว่าตำแหน่งห้องตรงนั้นเราจะต้องเจอกับความพลุกพล่าน และเสียงดังของผู้คนที่เดินผ่านไปมาด้วย
6. ดูผู้ประกอบการ เพื่อเป็นการเช็คว่าโครงการในเครือที่ผ่านๆมาเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการตัดสินใจเลือกซื้อ
7. อย่ารับโอนห้องถ้าไม่เรียบร้อย ขั้นตอนนี้ถือว่าอยู่เป็นลำดับท้ายๆแล้ว เพราะเราได้ผ่านการซื้อและผ่อนดาวน์มาจนคอนโดฯสร้างเสร็จ ก็ถึงช่วงเวลาที่ผู้ซื้อคอนโดฯต้องไปตรวจห้องเพื่อรับมอบโอนกรรมสิทธิ์กัน แต่ในขั้นนี้ผู้ขายมักเร่งรีบให้เราโอน โดยมักเอาโปรโมชั่นต่างๆมากหลอกล่อ ดังนั้นเราควรที่จะเช็คห้องให้เรียบร้อยก่อนที่จะมีการโอนกรรมสิทธิ์เพื่อป้องกันความไม่เรียบร้อยของห้องที่อาจเป็นปัญหาที่ตามแก้ไขได้ยาก